1.รู้เขารู้เรา
ก่อนอื่นเลยคุณต้องรู้ก่อนว่าสินค้าและบริการของคุณคืออะไร เหนือกว่าคู่แข่งตรงไหน เพื่อจะนำจุดต่างนี้ มาทำแผนการตลาดได้ เช่น ถ้าคุณจะนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ คุณต้องรู้ก่อนว่าจุดเด่นของแฟรนไชส์ของคุณคืออะไร มีอะไรบ้างที่คู่แข่งของคุณไม่มี คุณเป็นเจ้าแรกใช่หรือไม่ เมื่อคุณรู้อย่างเด่นชัดคุณก็จะนำเสนอได้อย่างมั่นใจ
2.รู้กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย.
ขั้นตอนนี้คุณต้องรู้ให้แน่ชัดว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายของคุณคือใคร เป็นนักศึกษา หรือคนทำงาน หรือกลุ่มผู้สูงอายุ หรือคุณแม่ เป็นต้น การรู้กลุ่มเป้าหมายจะทำให้คุณไม่ทำแผนการตลาดแบบหว่านในวงกว้าง ซึ่งจะทำให้เสียเวลาและงบประมาณ
การเฉพาะเจาะจงในกลุ่มเป้าหมายและมีความชัดเจนจะทำให้คุณจัดทำแผนการตลาดที่มีประสิทธิภาพและประหยัดงบประมาณ
3.สร้างแบรนด์
แผนการตลาด ไม่ใช่แค่คิดระยะสั้น ขายๆๆๆ เอาเงิน แล้วก็จบไป แบบนั้น ไม่ยั่งยืนแน่ครับ คุณต้องคิดวิเคราะห์ว่าจะทำยังไงให้แบรนด์ติดตลาดด้วยแน่นอนว่า สินค้าของคุณจะต้องมีคุณภาพ และสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ก่อนครับ
เมื่อสินค้าซึ่งเป็นแก่นหลัก ดีแล้วคุณค่อยต่อยอดว่าจะสร้างแบรนด์ยังไงทั้งการรับรู้ การจดจำ บุคลิก ภาพลักษณ์ เอกลักษณ์ ทุกอย่างที่เป็นตัวตนธุรกิจของคุณหาวิธีสื่อสารแบรนด์ออกไปยังกลุ่มเป้าหมายให้ได้
คุณอาจต้องปั้นแผนการตลาดเพื่อให้สินค้าเป็นที่รู้จักเช่น มีการจัดโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม เป็นต้น โดยคุณต้องมีโปรโมชั่นที่ให้ข้อเสนอที่ดีกว่าคู่แข่ง แต่อย่างไรก็ตาม ควรคำนึงถึงต้นทุนและผลกำไร ว่าคุ้มค่าหรือไม่ด้วย
4.สามารถวัดผลได้
แผนการตลาดที่ดีต้องสามารถวัดและประเมินผลได้ว่าเมื่อคุณดำเนินการไปตามแผนในช่วงเวลาที่กำหนดไว้
ไม่ว่าจะเป็นระยะสั้นหรือระยะยาวก็ดีได้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่ เช่น มียอดขายที่เพิ่มขึ้นหรือผลกำไรที่เพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการปรับแผนการตลาดในครั้งหน้าต่อไป
5.แผนการดำเนินงาน
เป็นขั้นตอนในการนำแผนการตลาดที่คุณได้คิดวิเคราะห์มาเป็นอย่างดีแล้วว่าจะทำอะไรบ้าง มาดำเนินการโดยคุณสามารถอธิบายกระบวนการในการลงมือทำงานจริง ๆ ได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอนเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของธุรกิจ
และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน
การปั้นแผนการตลาดจะต้องสามารถนำไปใช้ได้จริงคุณต้องทำความเข้าใจในธุรกิจของคุณเป็นอย่างดี
โดยคุณต้องปั้นแผนการตลาดที่สอดคล้องกับขั้นตอนการดำเนินงาน